วิตามิน บำรุงผมสวย สุขภาพดีจากภายในสู่ภายนอก

วิตามินตัวท็อป เพื่อผมสวยสุขภาพดี

มาดูกันว่าวิตามินชนิดใดบ้างที่มีบทบาทสำคัญในการบำรุงเส้นผม และจะส่งผลดีต่อผมของคุณอย่างไร

ไบโอติน หรือวิตามินบี 7

ไบโอติน ได้รับการยกย่องว่าเป็นวิตามินบำรุงผมอันดับต้นๆ เนื่องจากมีบทบาทสำคัญในการสร้างเคราติน ซึ่งเป็นโปรตีนโครงสร้างหลักของเส้นผม นอกจากนี้ ไบโอตินยังมีส่วนช่วยในการเผาผลาญไขมันและคาร์โบไฮเดรตเพื่อนำไปสร้างพลังงานให้เซลล์รากผมทำงานได้ดีขึ้น หากขาดไบโอติน อาจทำให้ผมร่วง ผมบาง เล็บเปราะ และผิวหนังแห้งได้

• แหล่งที่พบ ไข่แดง ถั่วเหลือง ถั่วลิสง อัลมอนด์ ธัญพืชไม่ขัดสี ตับ ยีสต์ เห็ด และนม
• ปริมาณที่แนะนำ โดยทั่วไปอยู่ที่ 30-100 ไมโครกรัมต่อวัน อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่มีปัญหาผมร่วงอาจพิจารณาปริมาณที่สูงขึ้นภายใต้คำแนะนำของแพทย์
  

วิตามินเอ

วิตามินเอ เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่สำคัญ และมีบทบาทในการช่วยให้เซลล์เติบโต รวมถึงเซลล์ในเส้นผม วิตามินเอช่วยในการผลิตไขมัน ที่หนังศีรษะ ซึ่งเป็นน้ำมันตามธรรมชาติที่ช่วยให้เส้นผมชุ่มชื้นและไม่แห้งกร้าน การขาดวิตามินเออาจทำให้ผมแห้ง หนังศีรษะแห้ง และเกิดรังแคได้ อย่างไรก็ตาม การได้รับวิตามินเอมากเกินไปก็อาจส่งผลเสียต่อเส้นผมได้เช่นกัน เช่น ทำให้ผมร่วง

• แหล่งที่พบ แครอท ฟักทอง มันเทศ ผักใบเขียวเข้ม ตับ นม และไข่
• ปริมาณที่แนะนำ ผู้ใหญ่ควรได้รับประมาณ 700-900 ไมโครกรัม RAE (Retinol Activity Equivalents) ต่อวัน

วิตามินซี

วิตามินซี ไม่เพียงแค่ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการบำรุงเส้นผมด้วย วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยปกป้องเส้นผมจากความเสียหายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ นอกจากนี้ยังจำเป็นต่อการสร้าง คอลลาเจน ซึ่งเป็นโปรตีนที่สำคัญในการสร้างความแข็งแรงให้กับเส้นผมและช่วยในการดูดซึมธาตุเหล็ก ซึ่งเป็นแร่ธาตุสำคัญอีกชนิดหนึ่งสำหรับเส้นผม

• แหล่งที่พบ ผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม มะนาว ฝรั่ง สับปะรด กีวี รวมถึงพริกหวาน มะเขือเทศ และบรอกโคลี
• ปริมาณที่แนะนำ ผู้ใหญ่ควรได้รับประมาณ 75-90 มิลลิกรัมต่อวัน

วิตามินดี

วิตามินดี มีบทบาทในการกระตุ้นการสร้างรูขุมขนใหม่ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการเจริญเติบโตของเส้นผม การขาดวิตามินดีเชื่อมโยงกับปัญหาผมร่วงแบบมีหย่อม และผมร่วงทั่วไป

• แหล่งที่พบแสงแดด (ร่างกายสามารถสร้างวิตามินดีได้เองเมื่อสัมผัสกับแสงแดด) ปลาที่มีไขมันสูง เช่น แซลมอน ปลาทู ไข่แดง และผลิตภัณฑ์นมที่เสริมวิตามินดี
• ปริมาณที่แนะนำ ผู้ใหญ่ควรได้รับประมาณ 600-800 IU (International Units) ต่อวัน

วิตามินอี

วิตามินอี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง ช่วยปกป้องเซลล์จากการถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ ซึ่งรวมถึงเซลล์ในรากผมด้วย นอกจากนี้ วิตามินอียังช่วยเพิ่มการไหลเวียนโลหิตบริเวณหนังศีรษะ ทำให้สารอาหารไปเลี้ยงรากผมได้ดีขึ้น

• แหล่งที่พบ น้ำมันพืช เช่น น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันจมูกข้าวสาลี ถั่วเปลือกแข็ง เมล็ดพืช ผักใบเขียวเข้ม และอะโวคาโด
• ปริมาณที่แนะนำ ผู้ใหญ่ควรได้รับประมาณ 15 มิลลิกรัมต่อวัน